หลายท่านอาจยังไม่รู้ว่า ก่อนเดินทางไปประเทศเกาหลี จำเป็นต้องลงทะเบียน K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ให้ผ่านเสียก่อน โดย K-ETA ก็คือ ระบบคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศแบบออนไลน์ โดยไม่ต้องขอวีซ่านั่นเอง ซึ่งหากผ่านการอนุมัติ ระบบก็จะส่งใบอนุญาตเดินทางแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอายุ 3 ปี ให้ท่านพิมพ์ออกมา เพื่อไปยื่นแก่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. แต่สำหรับ K-ETA นั้น ไม่ได้เป็นตัวการันตีในการผ่านด่าน ตม. ของเกาหลีแต่อย่างใด เป็นเพียงหลักฐานการลงทะเบียนข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งการจะผ่านด่าน ตม. ไปได้ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ตม. เพียงผู้เดียว โดยทางบริษัททัวร์, หัวหน้าทัวร์ หรือไกด์ทัวร์ จะไม่มีส่วนช่วยหรือเกี่ยวข้องในการพิจารณานี้ และสำหรับผู้เดินทางที่อายุต่ำกว่า 17 ปี และ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับยกเว้นการลงทะเบียน K-ETA
ดังนั้น #บลิสฟูล จึงอยากแชร์ขั้นตอนการลงทะเบียน K-ETA อัพเดทล่าสุดปี 2025 ฉบับจับมือทำให้จบตรงนี้กันไปเลย ซึ่งใช้เวลาไม่นานและไม่ยากอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย
สิ่งที่ควรเตรียมก่อนลงทะเบียน K-ETA ให้ดูตามรูปด้านบนได้เลย ☝️ พร้อมเตรียมเงินประมาณ 250-300 บาท ด้วยน้า
ขั้นตอนแรกให้ไปที่เว็บไซต์ www.k-eta.go.kr เพื่อเข้าไปลงทะเบียน K-ETA แต่ต้องระวังเว็บไซต์ปลอมด้วยนะ เพราะลูกค้าของบลิสฟูลโดนกันมาหลายคนเลยจ้าา และหากเว็บไซต์ของใครโชว์เป็นภาษาอื่น สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้จากแท็บเมนูสีขาวตามรูปด้านบนได้เลย ☝️ จากนั้นก็คลิก “ลงทะเบียน K-ETA” แล้วเลือก “กรอกใบลงทะเบียนใหม่”
มาถึงหน้านี้ก็ให้กรอกข้อมูลและเลือก “ยินยอม” ตามรูปด้านบนไปให้หมดเลยจ้า ☝️ เสร็จแล้วคลิก “ต่อไป”
ในส่วนนี้ให้กรอกหมายเลขพาสปอร์ตและอีเมล์ส่วนตัวลงไปได้เลย เสร็จแล้วคลิก “ต่อไป”
ได้เวลาแนบไฟล์พาสปอร์ตแล้วจ้า แนะนำให้สแกนหน้าพาสปอร์ตตามตัวอย่างในรูปด้านบน ☝️ แล้วบันทึกเป็นสกุลไฟล์ JPEG ขนาดไฟล์ไม่เกิน 20MB ต้องมีความคมชัด และไม่มีแสงสะท้อนด้วยนะ จากนั้นคลิกเครื่องหมาย + แล้วแนบไฟล์ไปได้เลย เสร็จแล้วคลิก “ต่อไป”
ส่วนนี้จะเป็นการกรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งต้องกรอกให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ตแบบเป๊ะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ-นามสกุล, เพศ, วันเดือนปีเกิด, หมายเลขพาสปอร์ต และอื่น ๆ หากกรอกเสร็จแล้วให้คลิก “ต่อไป”
หน้านี้จะเป็นการกรอกข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการเดินทาง เช่น มีสัญชาติอื่นไหม, เบอร์มือถือ, เคยไปเกาหลีไหม และวัตถุประสงค์การเดินทางคืออะไร ใครไปเที่ยวเองไม่ได้เดินทางกับทัวร์ก็เลือก “การท่องเที่ยว (เดินทางเดี่ยว)” หากใครเดินทางกับทัวร์ให้เลือก “การท่องเที่ยว (แบบกรุ๊ปทัวร์)” ซึ่งต้องกรอกชื่อบริษัททัวร์และเบอร์โทรบริษัทเพิ่มเติมเข้าไปด้วย แต่หากใครเดินทางด้วยวัตถุประสงค์อื่น ก็เลือกตามความเป็นจริงได้เลยจ้า ทีนี้ในส่วนของที่อยู่ของที่พักในเกาหลี หากใครจองที่พักแล้ว ก็ให้ใส่ข้อมูลที่พักที่จองได้เลย แต่หากใครยังไม่จอง ให้หาโรงแรมในอินเทอร์เน็ตที่คาดว่าจะไปพักก็ได้ เลือกมาสักโรงแรม หรือใครไปกับทัวร์ก็ขอรายละเอียดโรงแรมจากบริษัททัวร์มาได้เลย จากนั้นก็เอาข้อมูลที่พักไปค้นหาในระบบ โดยแนะนำให้คลิกตรงคำว่า ENG เพื่อค้นหาที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นจะมีป็อปอัพขึ้นมาให้เราค้นหา
เมื่อป็อปอัพขึ้นมาแล้ว ให้กรอกชื่อถนน, หมายเลขถนน, ชื่ออาคาร, ชื่อหมู่บ้าน หรือรหัสไปรษณีย์ 5 หลัก อย่างใดอย่างหนึ่ง ลงในช่องกรอก ซึ่งจากที่ได้ลองทำมาหลายครั้ง แนะนำว่าให้กรอกตัวเลขและที่อยู่ในวรรคแรกของแต่ละที่พักลงไป ตามตัวอย่างในรูปด้านบน ☝️ เพื่อระบบจะได้ค้นหาที่อยู่ได้ถูกต้องหรือใกล้เคียงมากที่สุด เมื่อกรอกแล้วให้คลิก “ค้นหา” จากนั้นระบบจะแสดงที่อยู่ขึ้นมา อาจจะแสดงแค่ที่อยู่อันเดียวหรือหลายอันก็แล้วแต่ ลองตรวจสอบดูว่าอันไหนถูกต้อง หากเจอที่อยู่อันที่ถูกต้องแล้วให้คลิกตรงชื่อที่อยู่ ระบบก็จะกรอกที่อยู่ลงไปให้แบบอัตโนมัติ ส่วนบรรทัดล่างต่อจากที่อยู่ ให้กรอกชื่อที่พักลงไปก็เป็นอันเสร็จ
ในส่วนนี้ยังเป็นการกรอกข้อมูลทั่วไป ให้กรอกตามความจริงได้เลย และในหัวข้อเบอร์โทรติดต่อในเกาหลี จะใส่เป็นเบอร์โทรของซิม Local ที่ซื้อก็ได้ หรือเบอร์โทรของที่พักก็ได้เช่นกัน
มาถึงส่วนที่ต้องแนบรูปถ่าย ก็เหมือนเดิมเลย ไฟล์รูปแนะนำให้เป็น JPEG ขนาดไฟล์ไม่เกิน 20MB ต้องคมชัดและไม่มีแสงสะท้อน เพิ่มเติมคือ ฉากหลังต้องเป็นสีขาว ไม่ยิ้มเห็นฟัน และไม่สวมเครื่องประดับ ตัวอย่างดูได้จากรูปด้านบน ☝️ หากเตรียมไฟล์พร้อมแล้ว ก็คลิก “แนบไฟล์” แล้วคลิก “ต่อไป” ได้เลย
ต่อไปก็กรอกข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการเดินทางกันต่อ เช่น ประเทศที่เกิด, สถานที่เกิด (ดูตามพาสปอร์ต), วันเดินทางถึงเกาหลี, วันเดินทางออกจากเกาหลี, รายได้ต่อเดือน และอื่น ๆ แต่ในส่วนของหัวข้อ มีคนรู้จักอยู่เกาหลีหรือไม่, มีผู้ร่วมเดินทางหรือไม่ และปัจจุบันประกอบอาชีพหรือไม่ หากเลือก “ใช่” จะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของคนรู้จักที่เกาหลี, ผู้ร่วมเดินทาง และอาชีพด้วย เช่น ชื่อ-นามสกุล, ชื่อบริษัท, เบอร์โทรติดต่อ, สถานะความสัมพันธ์ อะไรประมาณนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละหัวข้อ หากเสร็จแล้วให้คลิก “ต่อไป”
ถึงตรงนี้ให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่ได้กรอกไว้ก่อนหน้านี้ หากพบว่าไม่ถูกต้อง สามารถคลิก “แก้ไข” ในแต่ละส่วนก่อนได้ เพราะหากข้อมูลไม่ถูกต้องแม้แต่จุดเดียว มีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเกาหลีได้เลย ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดและแก้ไขให้เรียบร้อย หากถูกต้องแล้วให้คลิก “ชำระเงิน” และ “ยืนยัน”
ถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว นั่นคือ การชำระเงิน ใครสะดวกบัตรอะไรก็สามารถเลือกได้เลย มีทั้ง Visa, Mastercard, UnionPay และอื่น ๆ โดยค่าธรรมเนียม ณ วันที่ 8 มกราคม 2568 ราคาอยู่ที่ 10,306 KRW หรือ 251.96 บาท ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน และหลังจากชำระเงินแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้อีก หากเตรียมเงินพร้อมแล้ว ก็กรอกข้อมูลการชำระเงิน แล้วคลิก “ถัดไป” เพื่อชำระเงินได้เลย
จบแล้วสำหรับการลงทะเบียน K-ETA รวดเร็วและง่ายใช่ไหมล๊าา ?? หลังจากนี้ระบบจะส่งข้อมูลยืนยันการลงทะเบียนให้ทางอีเมล์อีกครั้ง และรอผลการพิจารณาอนุมัติประมาณ 72 ชั่วโมง อาจจะช้าหรือเร็วกว่าที่กำหนด ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนก็อาจจะ 1 ชั่วโมง รู้ผลเลย หรือบางคน 7 วัน รู้ผล ก็มีเช่นกัน ซึ่งต้องรอการแจ้งเตือนมาทางอีเมล์อย่างเดียว
หากผ่านการอนุมัติ K-ETA ระบบจะส่งอีเมล์มาแจ้งข้อมูลว่า Your K-ETA application has been approved ตามรูปด้านบน ☝️ นั่นหมายความว่า เตรียมเก็บกระเป๋า แล้วไปเที่ยวเกาหลีได้เลย
เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว จะต้องเข้าไปดาวน์โหลด “ใบอนุญาตการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์” จากในเว็บไซต์เหมือนเดิม
www.k-eta.go.kr โดยให้คลิก “ตรวจสอบผล K-ETA” หรือคลิก “Details” จากในอีเมล์ที่แจ้งผลการอนุมัติเลยก็ได้
จากนั้นระบบก็จะมาพาสู่หน้านี้ ให้กรอกหมายเลขพาสปอร์ตและวันเดือนปีเกิดลงไป แล้วคลิก “ค้นหา” จากนั้นจะมีป็อปอัพขึ้นมาให้กรอกหมายเลขยืนยัน โดยกรอกหมายเลขที่ระบบแสดงให้ลงในช่องว่างตามตัวอย่างในรูปด้านบน ☝️ แล้วคลิก “ยืนยัน”
และนี่คือหน้าตาของ “ใบอนุญาตการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์” แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งในส่วนของ ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, เพศ, สัญชาติ, หมายเลขพาสปอร์ต, วันหมดอายุพาสปอร์ต รวมถึงวันที่อนุมัติและวันหมดอายุของใบอนุญาตด้วย ซึ่งอย่างที่เคยแจ้งไปข้างต้น ข้อมูลทั้งหมดต้องถูกต้อง ห้ามผิดแม้แต่จุดเดียว เพราะอาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเกาหลีได้ หากตรวจสอบแล้วให้กด “พิมพ์” เพื่อปริ้นท์เอกสารได้เลย และใบอนุญาตในปัจจุบันมีอายุให้ถึง 3 ปี ทำให้เดินทางเข้า-ออกประเทศเกาหลีได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าใบอนุญาตจะหมดอายุ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนที่กำลังเดินทางไปเที่ยวเกาหลี ไม่ว่าจะเดินทางเองหรือไปกับทัวร์ ก็ขอให้ผ่าน ตม. แล้วได้เที่ยวตามแผนอย่างมีความสุขและสนุกสุดมันส์ แต่หากใครยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันที่เท่าไร หรือไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ขอแนะนำให้คลิกตรงนี้เลยจ้า 👉 ทัวร์เกาหลี เรามีโปรแกรมทัวร์หลากหลายเส้นทางให้เลือกไม่ว่าจะเป็น โซล, ปูซาน และเกาะเชจู โดยทุกโปรแกรมได้มีการคัดสรร จัดเตรียม และวางแผนไว้อย่างสมบูรณ์ พร้อมบริการครบครัน ทั้งเส้นทางท่องเที่ยว, ตั๋วเครื่องบิน, ร้านอาหาร, โรงแรม, รถบัสนำเที่ยว, ไกด์ท้องถิ่น, หัวหน้าทัวร์ดูแลจากไทยจนจบทริป และอื่น ๆ อีกมากมาย พูดง่าย ๆ ท่านเพียงแค่เก็บกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้า และรอไปเที่ยวเท่านั้น ทุกอย่างเราจัดการให้หมดแล้ว
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนใจ หากข้อมูลด้านบนที่แชร์ไป มีข้อผิดพลาดประการใด ทางเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักเดินทางทุกท่านไม่มากก็น้อย 😍